พรหมวิหาร 4 ธรรมแห่งการครองเมือง เจดีย์บริวาร 4 องค์ ที่ก่อสร้างจากฐานสุดจะหมายถึงพรหมวิหาร 4 อันได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา ในความหมายทางลัทธิศาสนาพราหมณ์ จะหมายถึงพระพรหม ที่นำมาออกแบบเป็นประติมากรรมสลักไว้บริเวณยอดเสาหลักเมืองทั้ง 4 ทิศ ประวัติความเป็นมาไม้มงคลหลักเมือง ความเป็นมา เมืองประมาณปี พ. 2400 นายแสง พิมลศรี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นปู่ทวดของนางชม รำเพย ได้มาบุกเบิกป่าใหญ่ชายคลองพุมดวง บริเวณบ้านหาดหอยคล้า ปัจจุบันตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นที่ทำกินพร้อมทั้งนำต้นราชพฤษ์มาปลูกในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ต่อมานายแสง พิมลศรี ซึ่งมีบุตรจำนวน 6 คน ได้มอบที่ดินแปลงนี้อยู่ในความรู้แลของนายช้วย พิมลศรี บุตรชาย ซึ่งต่อมาย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นและนายเอม ( ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นหลานของนายแสง พิมลศรี ได้เข้ามาจับจองที่ดินแปลงนี้ จนถึงปี พ. 2450 ต่อมานายเอมได้ขายที่ดินแปลงนี้ แก่นายหวาน – นางเหมือน รำเพย บ้านเดิมอยู่ บ้านพรุสยาม ( ปัจจุบันอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลพรุไทย อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี) เป็นเงินจำนวน 10 บาท นายหวาน – นางเหมือน รำเพย มีบุตร 3 คน คือ นายเคว็ด รำเพย นายเพิง รำเพย และ นางเมื้อง รำเพย และต่อมาประมาณปี พ.
สถาปัตยกรรมไทย: ศรีวิชัย (พระบรมธาตุไชยา อำเภอไชยา จ. สุราษฎร์ธานี) ศรีวิชัย พ. ศ. 1300 – 1800 ศรีวิชัย เป็นอาณาจักรในแถวเกาะสุมาตรา บาหลี ชวา บอร์เนียวรวมทั้งดินแดน อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานีด้วย จึงได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากชวาโดยมักทำเป็นมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ยอดเป็นสถูป องค์เจดีย์ เป็นแปดเหลี่ยมย่อมุม และมีทิศตั้งซ้อนอยู่ ก่อด้วยอิฐชนิดไม่ถือปูน ตัวอย่างสถาปัตยกรรม เช่น พระบรมธาตุ ไชยา เจดีย์วัดถ้ำสิงขร จ. สุราษฏร์ธานี (เจดีย์วัดถ้ำสิงขร จ. สุราษฎร์ธานี) ต่อมาได้รับอิทธิพลพระพุทธศาสนาจากลังกา จึงเกิดสถูปแบบลังกา ซึ่งมีลักษณะ ทรงกลมฐานบัวคว่ำ มีองค์ระฆังลักษณะคอดเข้า เช่น พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช (พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช)
แบบแรก ราวพุทธศตวรรษที่ 12 ลักษณะของอิทธิพลศิลปะอินเดียแบบคุปตะและหลังคุปตะยังคงมีอยู่มาก รวมทั้งอิทธิพลของศิลปะอินเดียแบบอมราวดีซึ่งเข้ามาก่อนแบบคุปตะและหลังคุปตะด้วย เช่น ไม่มีรัศมีบนพระเกตุมาลา พระพักตร์ยังคงคล้ายกับศิลปะอินเดีย ถ้าครองจีวรห่มเฉียงก็ไม่มีชายจีวรอยู่เหนือพระอังสาซ้าย ประทับนั่งขัดสมาธิราบอย่างหลวมๆแบบอมราวดี หรือประทับยืนด้วยอาการตริภังค์ และแสดงปางด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงพระหัตถ์เดียว พระหัตถ์ซ้ายยึดชายจีวรไว้ในพระหัตถ์ 2.
ไชยา สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับบรรดาเจดีย์ในเกาะชวามาก พระบรมธาตุนี้ได้ซ่อมใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทำให้รูปแบบเปลี่ยนไปจากของเดิมบ้าง
45) ทำเป็นกำแพงกันดินลาดเอียงผิ วบุด้วยหินแกรนิตสีเทา ขึ้นสู่พื้นลาน ชั้นแรก ( ระดับ +1. 45) ถูกจัดตกแต่งให้เป็นสนามหญ้าทั้งหมด เหลือเป็นทางเดินขึ้นสู่พื้นลาน ชั้นที่ 2 ( ระดับ+2. 45) ซึ่งปูพื้นลานด้วยกระเบื้องแกรมนิตสีขาวครีม ล้อมรอบพื้นลานด้วยกะบะปลูกต้นไม้ ขอบแต่งด้วยบัว โคมไฟสนามรูปหงส์สีทอง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ขอขอบคุณที่มาจาก: